Monthly Archives: November 2015

การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเรียน gmat ในประเทศไทยให้เป็นแบบการสอบกับคอมพิวเตอร์

GMAT (1)

การเรียน gmat หรือ Graduate Management Admission Test เป็นข้อสอบที่ใช้วัดความสามารถของผู้ที่ต้องการเข้าศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษาสาขาบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ใช้คะแนนในการเรียน gmat ในการพิจารณารับนักศึกษาลักษณะของข้อสอบเป็นการวัดความรู้ทางภาษาอังกฤษ และคณิตศาสตร์ รวมทั้งความถนัดของการเขียนในเชิงวิเคราะห์ ซึ่งเป็นความสามารถที่นักศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษาด้านบริหารธุรกิจควรจะมี ข้อสอบเป็นแบบปรนัย แบ่งออกเป็นสองส่วนด้วยกันคือ Quantitative และ Verbal และมีส่วนการเขียนความเรียงที่เรียกว่า Analytical Writing Assessment (AWA) Essay คำถาม (Analytical Writing Assessment)จะเริ่มต้นด้วย AWA สองคำถาม ในแต่ละส่วนจะมีเวลาทำ 30 นาที ในการพิมพ์ความเรียงในคอมพิวเตอร์โดยใช้โปรแกรมเวิร์ดอย่างง่าย เรียงความแต่ละส่วนนั้นจะมีการเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้วในขณะที่อีกสองส่วนนั้นไม่ได้เรียงลำดับก่อนหลังเอาไว้

การคิดคะแนนของ GMATจะมีการติดลบ 1 ใน 4 สำหรับข้อที่เลือกผิดทุกข้อ และการรายงานผลจะรายงานคะแนน 3 ครั้งล่าสุด มหาวิทยาลัยบางแห่งอาจจะพิจารณาเฉพาะผลคะแนนครั้งที่ดีที่สุด แต่บางแห่งอาจจะพิจารณาคะแนนเฉลี่ยของทั้ง 3 ครั้ง ในคณะที่มหาวิทยาลัยบางแห่ง อาจจะพิจารณาจากพัฒนาการของนักศึกษาจากผลที่ได้แต่ละครั้ง คะแนนเรียน gmat จะอยู่ระหว่าง 200 – 800 คะแนน ส่วนใหญ่นักศึกษาจะทำได้ประมาณ 250-700 ในส่วนการเขียนเชิงวิเคราะห์ จะมีคะแนนในช่วง 0 – 6 ผู้ที่ไม่ทำข้อสอบทั้ง 2 ชุด คือทั้งการเขียนบทความ และการทำข้อสอบปรนัย จะไม่ได้รับผลคะแนน เนื่องจากถือว่าทำข้อสอบไม่สมบูรณ์ ปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการสอบ GMAT ในประเทศไทยให้เป็นแบบการสอบกับคอมพิวเตอร์

คะแนนเรียน gmat กับ Business Schools คะแนน GMAT ที่ผู้สอบจะได้รับจะมีแบ่งเป็นส่วนๆ ดังต่อไปนี้ Quantitative ระดับคะแนน อยู่ในช่วง 0 ถึง 60 Verbal ระดับคะแนนอยู่ในช่วง 0 ถึง 60 Overall ระดับคะแนนอยู่ในช่วง 200 ถึง 800 ซึ่งเป็นคะแนนหลังจากนำสองส่วนแรกมารวมกันแล้วนำมาเทียบให้อยู่ในช่วงคะแนน 200 ถึง 800 Analytical Writing Assessment ระดับคะแนน อยู่ในช่วง 0 ถึง 6 โดยจะเป็นคะแนนแยกจากสองส่วนแรก ส่วนนี้สำคัญน้อยกว่าสองส่วนแรก การเรียน MBA ในมหาวิทยาลัยดังๆ ส่วนใหญ่ก็หมายถึงการที่จบมาแล้วได้งานทำดีๆ เงินเดือนมาก ฉะนั้นการแข่งขันเข้ามหาวิทยาลัยดังจึงค่อนข้างสูง ฉะนั้นผลการเรียน gmat ที่จะใช้เพื่อให้ได้รับการตอบรับเข้าเรียนก็สูงตามไปอย่างช่วยไม่ได้ ตารางข้างล่างเป็นคะแนนโดยเฉลี่ยของผู้ที่จะเข้าเรียน MBA ในมหาวิทยาลัยต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา

การส่งกำลังด้วยสายพานมีหลายอย่างเมื่อเปรียบเทียบกับการส่งกาลังด้วยวิธีอื่นๆ

0265

การส่งกำลังด้วยสายพานมีข้อดีหลายอย่างเมื่อเปรียบเทียบกับการส่งกาลังด้วยวิธีอื่นๆ เช่น สายพานมีราคาถูก ใช้งานสะดวกถึงแม้จะมีต้นกาลังกับจุดใช้งานห่างกัน การอ่อนตัวสามารถทาให้รับแรงสั่นสะเทือนได้ดี บำรุงรักษาได้ง่าย แต่ก็มีข้อเสียของสายพานคือไม่สามารถรับภาระแรงกระทามากๆได้ อาจเกิดการลื่นไถลได้ง่าย ซึ่งสายพานที่ใช้ส่งกาลังนั้นแบ่งตามลักษณะของหน้าตัดของสายพานได้ออกเป็นคือ สายพานแบนมีพื้นที่หน้าตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าและเป็นสายพานที่ใช้ส่งกาลังระหว่างล้อขับกับล้อตามที่มีระยะห่างมากๆ อีกทั้งเป็นงานที่สามารถลื่นไถลได้ ซึ่งลักษณะการส่งกาลังมีอยู่ 2 รูปแบบคือ

การส่งกาลังแบบแกนเพลาขนานกัน โดยแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะคือ การส่งกาลังของสายพานแบนแบบเปิดใช้ส่งกาลังแบบแกนเพลาขนานกัน ซึ่งสายพานด้านที่มีความตึงจะอยู่ด้านล่างและด้านที่หย่อนของสายจะอยู่ด้านบน ทาให้เกิดมุมสัมผัสมากขึ้น ดังนั้นโอกาสในการลื่นไถลของสายพานจึงมีน้อยการส่งกาลังของสายพานแบนแบบเปิดมีล้อกดสายพาน หลักการทางานเหมือนกับสายพานแบนแบบเปิดแต่จะแตกต่างตรงที่มีล้อกดสายมาช่วยกดสายพาน เพื่อให้เกิดมุมสัมผัสมากยิ่งขึ้น ดังนั้นโอกาสในการลื่นไถลของสายพานแบนแบบเปิดมีล้อกดสายพานจึงมีน้อยกว่าสายพานแบนแบบเปิด การส่งกาลังของสายพานแบนแบบไขว้เป็นการต่อสายไขว้กัน ในการส่งกาลังระหว่างล้อขับกับล้อตามซึ่งหมุนกลับทิศทางกัน ดังนั้นทาให้มีมุมสัมผัสมากยิ่งขึ้น แต่สายพานจะเสียดสีกันตรงกลาง

การส่งกาลังแบบแกนเพลาตัดกันโดยแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะคือ การส่งกาลังของสายพานแบนแบบกึ่งไขว้ใช้ส่งกาลังแบบแกนเพลาทามุมตั้งฉากกัน ซึ่งสามารถส่งกาลังได้โดยที่ไม่ต้องมีล้อช่วยกดสาย แต่ถ้าล้อขับและล้อตามมีระยะเยื้องศูนย์กันมากอาจจะทาให้สายพานหลุดจากล้อสายพานได้ การส่งกาลังของแบนแบบกึ่งไขว้มีล้อกดสายพาน หลักการทางานเหมือนกับสายพานแบนแบบกึ่งไขว้ แต่จะแตกต่างตรงที่มีล้อกดสายพานมาช่วยกดสายพาน เพื่อให้เกิดมุมสัมผัสมากยิ่งขึ้น และป้องกันสายพานหลุดออกจากล้อสายพาน